รีวิว Logan (โลแกน เดอะ วูล์ฟเวอรีน) ดราม่าของซูเปอร์ฮีโร่ชัดๆ
วันนี้มาแนะนำหนังฮีโร่ในตำนาน Logan (โลแกน เดอะ วูล์ฟเวอรีน) ภาคปิดท้ายในไตรภาคของ วูลฟ์เวอรีน ฮีโร่ผู้โดดเด่นจากทีม X-Men Logan ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างมาก จากหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เคยผ่าน ๆ ตากันมา ด้วยลุคชราภาพของ โลแกน และ ชาร์ล เซเวียร์ บนฉากหลังทะเลทรายส้ม ๆ แล้วใช้เพลงคันทรี่ของจอนนี่ แคช มาประกอบ สร้างความกระหายอยากลิ้มลองหนังซูเปอร์ฮีโร่ทิศทางที่แปลกใหม่ ภาคนี้นับได้ว่าผู้กำกับเจมส์ แมนโกลด์ ดึงตัวตนกลับมาในผลงานได้มากขึ้น เจมส์ เป็นผู้กำกับที่เก่งมากคนหนึ่งในฮอลลีวู้ด
เรื่องราวที่เล่าข้ามไปถึงยุคที่มนุษย์กลายพันธุ์แท้จะหมดสิ้นไปจากโลก ที่ยังหลงเหลืออยู่ก็มีแค่เพียง วูล์ฟเวอรีน หรือ โลแกน (Hugh Jackman) ที่พยายามทำตัวกลมกลืนด้วยการเป็นพนักงานขับรถหรูคอยรับส่งคน และปิดบังการมีอยู่ของมนุษย์กลายพันธุ์ในตำนานอีกคนเอาไว้ ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ เซเวียร์ (Patrick Stewart) ที่ชราและมีปัญหาด้านสุขภาพรุมเร้า เขาเริ่มจะเป็นอัลไซเมอร์และควบคุมพลังของตัวเองไม่ได้ ต้องพึ่งยาที่โลแกนหามาให้ ในโกดังร้างแห่งนั้นยังมีมนุษย์กลายพันธุ์อีกหนึ่งการหลบซ่อนตัวไม่อาจรอดพ้นจากการถูกติดตามไปได้ เมื่อวันหนึ่งเขาก่อคดีฆ่าคนตาย ภัยร้ายก็กลับเข้ามา มีหญิงสาวมาขอให้เขาช่วยกับมีกลุ่มคนร้ายติดอาวุธที่ถามเขาถึงผู้หญิงคนดังกล่าว
สำหรับหนังเรื่องนี้คือหนังเดี่ยวภาคสุดท้ายของวูล์ฟเวอรีน ซึ่งผู้ชมจำนวนไม่น้อยยกให้เป็นหนังที่ดุเดือด เข้มข้น และสนุกที่สุดในบรรดาแฟรนไชส์หนัง X-Men ทั้งหมด ในหนังจะได้พบกับโลแกนหรือวูล์ฟเวอรีนที่อายุมากขึ้น และเริ่มสูญเสียพลังการฟื้นฟูไป ทว่าในยุคที่มนุษย์กลายพันธุ์ใกล้จะหมดไปจากโลก เขาก็พบกับเด็กหญิงที่มีพลังคล้ายกับตัวเอง และต้องช่วยเหลือเธอให้เอาชีวิตรอดจากการตามล่าให้ได้ ด้วยเนื้อเรื่องที่เน้นความดราม่า และพยายามถ่ายทอดให้เห็นถึงด้านที่เป็นมนุษย์ธรรมดาของโลแกน ทำให้หนังเรื่องนี้แตกต่างจากหนังฮีโร่เรื่องอื่น ๆ นับเป็นการปิดตำนานวูล์ฟเวอรีนได้น่าประทับใจมากเลยค่ะ
👉👉 นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังแอคชั่นไซไฟ ได้ที่นี่
Comments
Post a Comment