รีวิว Loki: โลกิ เทพเจ้าแห่งความชั่วร้าย "ตัวแปร" สำคัญสู่เฟส 4 ของจักรวาลมาร์เวล

Loki เป็นซีรีย์สปินออฟ (spin-off) ที่เปิดโลกใหม่แห่งมัลติเวอร์สแห่งกาลเวลาด้วยตัวละครที่ตายทิพย์บ่อยที่สุดในจักรวาลมาร์เวลอย่าง ‘โลกิ’ รับบทโดย ‘ทอม ฮิเดิลสตัน’ เหตุการณ์ในเรื่องเกิดขึ้นต่อจากตอนที่โลกิขโมยเทสเซอร์แรคต์และหนีไปได้ใน Avengers: End Game แต่เจอคนจากองค์กร Time Variance Authority (TVA) มาจับตัว เนื่องจากการมีอยู่ของเขาเป็นตัวแปรที่ขัดกับเรื่องราวในไทม์ไลน์ศักดิ์สิทธิ์

เรื่องราว โลกิ เทพแห่งการหลอกลวง ฝืนชะตาจากการต้องถูกคุมขังไปแอสการ์ดทำให้เส้นเวลาผิดเพี้ยน จนหน่วยงานผู้พิทักษ์เส้นเวลาต้องเข้ามาจับกุม โดยยื่นเงื่อนไขหากเขาช่วยกอบกู้เส้นเวลาที่ผิดเพี้ยนต่าง ๆ กลับมาปกติได้ จะได้รับการไว้ชีวิต โลกิต้องเอาตัวรอดจากชะตากรรมใหม่นี้ พร้อมไขปริศนาว่าผู้อยู่เบื้องหลังของทุกสิ่งอย่างนี้คือใครกันแน่ 

ซีรีย์ ‘Loki’ มีความสำคัญไม่น้อยทีเดียว เพราะในเรื่องโลกิต้องเล่นเกี่ยวกับการแตกแขนงของมิติเวลาต่าง ๆ และการโยงว่ามีผู้อยู่เบื้องหลังของการควบคุมเส้นเวลาก็น่าสนใจทีเดียวว่าจะโยงไปต่ออย่างไรในเรื่องอื่น ที่แน่ ๆ อย่างน้อยก็ในซีรีย์ ‘What If…?’ และหนังอย่าง ‘Spider-Man: No Way Home’ กับ ‘Doctor Strange in the Multiverse of Madness’ ที่ล้วนแต่เล่นเรื่องของมิติคู่ขนานทั้งสิ้น ซีรีย์นี้จึงมีพื้นที่เปิดกว้างมากสำหรับการหยอดนู่นนี่ลงไปในจักรวาลมาร์เวลที่เรารู้จัก ว่ายังมีอีกสถานที่ที่เคลื่อนไหวคู่ขนานไปกับเรื่องราวปกติที่เราเคยดูมา ทั้งองค์กรผู้พิทักษ์เวลาที่มีกฎระเบียบข้อห้ามหลายอย่างที่น่าสนใจว่ามีอะไรอยู่เบื้องหลัง การด้อยค่าเหล่าอัญมณีที่พลังมากสุดในจักรวาลมาร์เวลเหลือเป็นเพียงที่ทับกระดาษ การมีอยู่ของผู้คุมกาลเวลาที่กำหนดว่า ตัวแปร อะไรคืออยู่ในเส้นเวลาศักดิ์สิทธิ์และอะไรที่ไม่ใช่

โดยสรุปแม้จะดำเนินเรื่องเหมือนหนังแนวตำรวจที่ต้องร่วมมือกับตัวร้ายเพื่อจับวายร้ายที่ยิ่งใหญ่กว่า ทว่าแต่ละตอนที่ซีรีย์พาเราไปมันเต็มไปด้วยความน่าสนใจ ที่สำคัญมันทำให้เราประหลาดใจอยากดูอยากรู้ไปหมด ทั้งตัวละครใหม่ ๆ การเปิดเผยหรือเฉลยความลับใหม่ ๆ บทสนทนาที่ชวนคิดต่อ รวมถึงเส้นเวลาตัวแปรที่อยู่นอกเส้นทางหลักสัมพันธ์อย่างไรกับไทม์ไลน์ปกติแบบในหนังนิยายไซไฟที่เล่นเรื่องเวลา

👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังแอคชั่นไซไฟ ได้ที่นี่