รีวิว Venom 2 Let There Be Carnage เวน่อม 2 (2021) สัมพันธ์อำมหิต..ปรสิตสังหารหมู่

Venom  Let There Be Carnage (2021)  หนังภาคต่อจาก เวน่อม ภาค 1 (2018) ที่ทำรายได้ทั่วโลกไปกว่า 856 ล้านเหรียญฯ เวน่อม ภาค 2 จะเป็นเรื่องราวของ “คลีตัส คาซาดี” ฆาตกรโรคจิตที่อยู่ร่วมห้องขังเดียวกับ “เอ็ดดี้ บร็อก” ตอนที่บร็อกติดคุก และหลังจากที่บร็อกได้แหกคุกออกมาโดยใช้ซิมไบโอต และมีเศษบางส่วนของ ซิมไบโอตดันหลุดออกไปแล้วเข้าสิงร่างของคาซาดี ทำให้เขากลายร่างเป็นคาร์เนจที่มีความน่ากลัวและโหดเหี้ยมมากกว่าเวนอมหลายเท่า 


เรื่องราว  Venom: Let There Be Carnage ไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมและมีเนื้อหาที่ซ้ำซากจำเจของภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ส่วนใหญ่ แต่ก็สนุกดี ฉันพบว่าตัวเองหัวเราะเยาะมากกับ Venom’s one-liners ทำให้ดูแล้วสดชื่นเป็นอย่างมาก แม้จะมีการอธิบายบางอย่าง แต่นี่เป็นหนึ่งในภาคต่อที่คุณต้องเห็นเป็นอันดับแรกเพื่อทำความเข้าใจจักรวาลนี้ และนั่นก็แย่เกินไปและไม่ได้สนใจมากนัก นี่เป็นสิ่งที่ดีกว่าของทั้งสองอย่างแน่นอน Eddie Brock และ Venom ตัวแทนมนุษย์ต่างดาว ยังคงต่อสู้เพื่อความสงบสุขของเมือง พร้อมกันนั้น ชายที่เคยเล่นบาร์เทนเดอร์ที่ Cheers ก็กลายเป็นทั้งวายร้ายผู้ยิ่งใหญ่และศัตรูตัวฉกาจของ Venom เอ็ดดี้จะชดใช้ Venom ทันเวลาเพื่อหยุด Carnage หรือไม่? ในตอนที่ Venom อยู่คนเดียว เขามีฉากที่น่าอัศจรรย์และเฮฮา อันนี้ผ่านเพราะเราแทบจะไม่เคยเห็นอีกด้านหนึ่งของตัวเวน่อม สิ่งที่เรามักจะได้รับคือเสียงหอนที่ไม่ใช่ซุปเปอร์ฮีโร่


โดยรวมเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างหนังคู่หู และโรแมนติก (Venom <3 Eddie) และความสยองขวัญ หนังไม่เสียเวลาเลยที่จะเข้าเรื่องและไม่ผ่อนแรงลงเลยสักนิด ฮาร์ดี้แซ่บมาก และฮาร์เรลสัน คือ คาร์เนจ  จุดแข็งของ คือการจับคู่กันระหว่างความคลั่งไคล้และแอ็คชั่นที่น่าตื่นเต้น แล้วมาเจอกับเคมีความเข้ากันของทอม ฮาร์ดี้กับตัวเอง วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน ดูเป็นตัวละคร คลีตัส/คาร์เนจ มาก และเขาเหมาะกับบทนี้สุดๆ


👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวซีรี่ย์แนวพีเรียด อิงประวัติศาสตร์ ได้ที่นี่




Comments

Popular posts from this blog

รีวิว How I Became a Super Hero ปริศนาพลังฮีโร่

รีวิวหนังดิสนีย์ Toy Story 4 (2019) ภาคส่งท้ายของแฟรนไชส์นี้

รีวิวหนัง หนุ่มน้อยเจ้าสังเวียน WWE (The Main Event)