หนังซุปเปอร์ฮีโร่และหนังการ์ตูนดิสนี่ย์

The New Mutants  เรื่องราวของกลุ่มมนุษย์กลายพันธุ์วัยรุ่นที่ได้รับการดูแลจากคุณหมอเรเยส ซึ่งนอกเหนือจากเรื่องผจญภัยทั่วไปแล้วก็ยังต้องรับมือกับปัญหาว้าวุ่นแบบฉบับวัยรุ่น  อีกหนึ่งสิ่งที่หนังให้แบบเกินคาดเหมือนกัน คือข้อคิดต่าง ๆ ในแง่ของวัยรุ่นปะทะวัยผู้ใหญ่ ความหวังดีของผู้ใหญ่ปะทะการกดขี่จำกัดความคิดเด็ก ซึ่งกลายเป็นปัญหาสากลขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในบ้านเรานี่ก็เห็นเป็นดราม่าอยู่เนือง ๆ ตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา แถมเรื่องนี้ยังชวนให้นึกถึงสังคมบ้านเราหลาย ๆ อย่างแบบไม่ได้ตั้งใจเสียด้วย เรื่องราวของเดเนี่ยล เด็กสาวอายุ 16 ปีที่รอดจากเหตุโศกนาฏกรรมมาได้ราวกับปาฏิหารย์ แต่ต้องทำให้เธอต้องมาติดอยู่ในสถาบันแห่งหนึ่งที่มีหมอหญิงท่าทางใจดีชื่อเรเยสที่บอกว่าเธอควรอยู่ที่นี่กับเด็กกลายพันธุ์กลุ่มใหม่อย่าง ราเน่ แซม โรเบิร์ตโต้ และ อียาน่า ซึ่งทุกคนล้วนแต่มีความลับที่ไม่กล้าเปิดเผยให้ใครรับรู้ แต่แล้วความไม่น่าไว้วางใจก็เกิดขึ้นในกลุ่ม เมื่อปีศาจชั่วร้ายหลอกหลอนพวกเขาจนแทบสติแตก แต่พวกเขาก็ไม่สามารถหนี พวกเขาจึงต้องหันหน้าเข้าหากัน และหาทางเอาชีวิตรอดให้ได้ ก่อนที่ปีีศาจจะกินพวกเขาจนไม่เหลือ

  Transformers: Rise of the Beasts แอ็กชันในสไตล์ยุค 90s  สตีเวน เคเปิล จูเนียร์ (Steven Caple Jr.) ผู้กำกับ Creed 2 ที่มากุมบังเหียน ‘Transformers: Rise of the Beasts’ ได้ใหัสัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Comingsoon.net เกี่ยวกับความตื่นเต้นที่ได้นำแฟรนไชส์กลับมาในสไตล์ยุค 90s และเขามองไปถึงการสร้างฉากแอ็กชันที่ได้แรงบันดาลใจมาจากฉากในภาพยนตร์แอ็กชันไซไฟคลาสสกิกอย่าง ‘Terminator 2: Judgement Day’ (1991) “ผมคิดว่าคุณจะได้สัมผัสกับการเดินทางในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เชื่อมโยงทุกอย่างเข้าหากัน เป็นการได้แรงบันดาลใจมาจาก Terminator 2 สุดคลาสสิก ที่เต็มไปด้วยฉากหุ่นเหล็กต่อสู้กันมากมาย ซึ่งจะเป็นการนำแอ็กชันสไตล์คลาสสิกกลับมาสู่ภาพยนตร์” นั่นอาจกล่าวได้ว่า ผู้กำกับต้องการให้ความเคารพต่อภาพยนตร์แอ็กชันไซไฟสุดฮิตแห่งยุค 90s อย่างจริงจัง อีกทั้ง ‘Transformers: Rise of the Beasts’ ก็จะเดินเรื่องในยุค 90s ด้วย ‘Transformers: Rise of the Beasts’ เป็นภาพยนตร์ภาคที่ 7 ในแฟรนไชส์ ‘Transformers’ ซึ่งเล่าเรื่องของเหล่า Autobots และ Decepticons ที่เดินทางมายังโลก พร้อมเสริมด้วยตัวละครกลุ่ม Predacons, Maximals และ Te

"The Bat and the Cat" หรือ "มนุษย์ค้างคาว กับ นางแมวป่า" ที่เป็นการบอกใบ้เป็นนัยว่าในหนังเรื่องนี้ พวกเขาทั้งคู่จะต้องจับคู่และร่วมมือกันสืบค้นหาคำตอบอะไรบางอย่างเกี่ยวกับปริศนาที่มนุษย์เจ้าปัญหาได้โปรยทิ้งไว้ ไม่เพียงเท่านั้น ในตัวอย่างหนังฉบับนี้ยังอัดแน่นมาด้วยฉากแอคชั่นดุเดือดอลังการงานสร้าง ที่การันตีได้ว่าจะยิ่งใหญ่มากๆ แน่นอน สำหรับการมาของหนึ่งในหนังฟอร์มใหญ่ที่เป็นโปรแกรมทองในปี 2022 เตรียมเนรมิตความยิ่งใหญ่และทะเยอทะยานครั้งใหม่กับวงการหนังซูเปอร์ฮีโร่อีกคร้ง และล่าสุดพวกเขาก็ได้ส่งทีเซอร์ตัวอย่างหนังฉบับพิเศษออกมาอุ่นเครื่อง เรื่องราว The Batman จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน 2 ปีให้หลังจากที่ แบทแมน เริ่มปรากฏตัวในเมือง และสร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่าอาชญากร ทำให้ บรูซ เวย์น ได้ถลำลึกเข้าสู่เงามืดของก็อทแธม เมื่อมีพันธมิตรไม่กี่คนที่ไว้ใจได้ ที่ในจำนวนนั้นก็คือ อัลเฟร็ด เพนนีเวิร์ธ กับ ผู้หมวดเจมส์ กอร์ดอน ท่ามกลางเครือข่ายเจ้าหน้าที่และบุคคลระดับสูงที่คอรัปชั่นของเมือง นักปราบอธรรมผู้ฉายเดี่ยวได้สร้างตัวเองเป็นตัวแทนของการล้างแค้นหนึ่งเดียวในหมู่พี่น้องป

Minnal Murali มุราลีฟ้าฟาด ภาพยนต์ซุปเปอร์ฮีโร่สัญชาติอินเดียจาก Netflix กับเรื่องราวของหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีช่างตัดเสื้อบังเอิญโดนฟ้าผ่า จนได้รับพลังเหนือมนุษย์มา แต่ทว่ายังมีอีกคนที่โดนฟ้าผ่าจนได้รับพลังมาพร้อมกันกับเขา หนังซุปเปอร์ฮีโร่ในปัจจุบันก็มีออกมาให้เราชมกันเยอะมาก มาร์เวล ดีซี ฯลฯ เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกเลยที่วงการบอลลีวู้ดจะเอากับเขาบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้ปล่อยมาในวันคริสมาสต์อีฟพอดี เป็นหนังยาวเรื่องใหญ่ปลายปีแนวแอคชั่น คอมเมดี้ที่ต้องบอกเลยว่าเกินคาดในหลายๆ เรื่อง เรื่องราวจะเกิดขึ้นในหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งที่ชื่อว่า กุรุกกรรณมูล โดยมีช่างตัดเสื้อ เจสัน เขาถูกฟ้าผ่าในวันที่ดวงดาวสามดวงเรียงกันพอดี เมื่อตื่นมาก็พบว่าเขามีพลังเหนือมนุษย์ เช่นได้ยินเสียงชัดขึ้น แข็งแรงขึ้น และได้กลายเป็นฮีโร่ที่ชื่อว่า “มุราลีฟ้าฟาด” แต่ทว่าในวันที่เขาถูกฟ้าผ่า ก็ยังมีอีกคนที่ได้พลังเหมือนกัน นั่นก็คือ ศิปุ ที่ชาวบ้านต่างว่าเขาเป็นคนบ้า เขาใช้พลังเพื่อทำประโยชน์ให้กับตัวเอง และใส่ร้ายป้ายสีให้กับฮีโร่ตัวจริง งานนี้เจสัน จะต้องหาตัวร้ายที่แอบอ้างใช้ชื่อของเขาให้ได้ก่อนที่จะมีชาวบ้านต้องตายมากก

Star wars: The rise of Skywalker   กำเนิดใหม่สกายวอร์กเกอร์ คือภาคจบที่ทำออกมาเพื่อเอาใจคนดูที่ “อยากเห็นซีน หรือตัวละคร” ที่พวกเขาอาจจะไม่ได้เห็นอีก จักรวาลของเรากว้างใหญ่ขนาดไหน จักรวาลสตาร์วอร์สกว้างใหญ่ไม่แพ้กัน กว่าจะเดินทางมาถึงภาคสุดท้ายใช้เวลากว่า 20ปี เห็นเหตุการณ์แต่ละไตรภาค ในที่สุดสงครามก็จบลง เรื่องราวชะตากรรมของฝ่ายต่อต้านถูกเดิมพันด้วยการตามหาตัว พัลพาทีน (เอียน แมกเดียมิด) จักรวรรดิชั่วร้าย เป็นภารกิจที่ต้องร่วมมือกันของเรย์ (เดซี ริดลีย์) ฟิน (จอห์น โบเยกา) โพ (ออสการ์ ไอแซก)และ C3PO กับ BB8 คู่หูแอนดรอยด์สายซับ ก่อนกาแล็กซีจะต้องเผชิญหน้ากับการล้างเผ่าพันธุ์ครั้งใหญ่อีกครั้ง ในขณะที่เรย์เองก็เริ่มสับสนกับทางเลือกบนวิถีแห่งเจได และการผสานพลังระหว่างเธอกับไคโล เรน (อดัม ไดร์ฟเวอร์) ที่อาจจะดึงเธอเข้าสู่ด้านมืดได้อย่างง่ายดายรวมถึงชาติกำเนิดที่แท้จริงของเธอที่อาจพลิกชะตากรรมของทั้งกาแล็กซีไปตลอดกาล  หนึ่งในหัวใจหลักของหนังคือเรื่องครอบครัวและความรัก ซึ่งเราอาจกล่าวได้ว่าข้อดีที่สุดของ The Rise of Skywalker คือการผสานอารมณ์โรแมนติกเข้ามาในเรื่องราวนี่แหละ เพราะหากกล่าวถึง

Trollhunters: Rise of the Titans นักล่าโทรลและผ่องเพื่อนของเราได้กลับมาอีกครั้งในรูปแบบภาพยนตร์ Original Netflix ที่จะพาผู้ชมไปสู่เรื่องราวบทสรุปของซีรีย์จักรวาล Tales of Acadia สุดยิ่งใหญ่ที่อัพคุณภาพแอนิเมชั่นเทียบเท่าหนังโรง ถ้าใครยังไม่เคยดูเรื่องนี้คงต้องย้อนกลับไปดูซีรีย์ทั้งสามเรื่องก่อน ไม่งั้นคงไม่เข้าใจแน่ ๆ เพราะเนื้อเรื่องต่อจากซีรีย์ Wizard ทันที แต่ภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายนี้ Guillermo del Toro ไม่ได้เป็นคนกำกับเอง จึงทำให้รู้สึกเสียดายเหมือนกันที่เขาไม่ได้มาปิดตำนานด้วยตัวเอง เรื่องราวหลังจากที่กลับมายังโลกปัจจุบัน เหล่าโทรลฮันเตอร์ยังคงต้องสู้กับสองจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ และต้องปกป้องนาริไปด้วย เพื่อไม่ให้เหล่าจอมเวทย์เรียกไททันออกมาเพื่อล้างโลกได้ แต่ว่าจิมที่สูญเสียเครื่องรางแห่งเมอร์ลินไปแล้ว ทำให้เขากลายเป็นคนธรรมดาที่ไม่สามารถต่อกรกับเหล่าจอมเวทย์ได้ จึงทำให้นาริโดนจับตัวไป ในขณะเดียวกันอาจาก็กลับมาโลกพร้อมกับอีไล ทำให้เหล่าฮีโร่แห่งอาคาเดียได้กลับมารวมตัวครบอีกครั้ง พวกเขาจะโต้กลับเหล่าจอมเวทย์ได้อย่างไร ติดตามกันต่อได้เลย โดยรวมเปิดเรื่องมาการไล่ล่าของเหล่าจอมเวทย์ที่

Venom: Let There Be Carnage (2021) ตัวละครวายร้ายของสไปเดอร์แมนอย่างวีนอม ถูกสลัดคราบ “ผู้ร้าย” ออกเพื่อทำให้ผู้ชมรู้สึกว่าอยากจะเอาใจช่วยให้ตัวละครนี้สามารถคลี่คลายปมของตัวเองให้บรรลุเป้าหมายในตอนท้ายของหนังภาคแรก อย่างที่คนดูทราบว่าเอ็ดดี้ (ทอม ฮาร์ดี้) ถูกปรสิตต่างดาวอย่างวีนอมยึดครองร่าง เพื่อความอยู่รอด แม้การปรับตัวเข้าหากันของทั้งสองฝ่ายในช่วงแรกไม่ใช่เรื่อง่ายเอาเสียเลย แต่พวกเขาก็พิสูจน์ให้เราเห็นว่า สุดท้ายแล้วทั้งคู่ล้วนแล้วแต่จำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยกัน เรื่องราว ช่วงเวลาก่อนที่วีนอมจะมารวมร่างกับเอ็ดดี้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวเอ็ดดี้เองจัดเป็นคนอีโก้สูงแต่ความสามารถต่ำ ความหยิ่งทะนงตนของเขาไม่ได้จางหายไปไหนแต่ยังคงแอบซ่อนฝังรากลึกอยู่ในตัว เช่นเดียวกับทางฝั่งวีนอมเองที่ทำอะไรตามใจ ปากไม่มีหูรูด และหิวเลือดสดๆอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่ทั้งสองอยู่ร่วมตัวติดกันเป็นเวลาเนิ่นนาน ส่งผลให้ทั้งคู่เกิดความเอือมระอาต่อกันและกัน จนวันหนึ่งความสัมพันธ์ของถึงสองเดินมาสู่จุดแตกหักทำให้พวกเขาตัดสินใจ “ห่างกันสักพัก” แต่ห่างได้ไม่นาน เมื่อพวกเขาพบว่า “คาร์เนจ” ซึ่งเกิดจากปรสิตในตัวของเอ็ดดี้ดันหล

The Incredible Hulk (2008)   หลังจากที่ Bruce Banner ได้รับรังสีแกมม่าก็ส่งผลให้เนื้อเยื่อกลายพันธุ์เป็นยักษ์เขียวจอมพลัง หรือ ฮัลค์ เขาต้องตัดใจจากคนรักและยังต้องหลบหนีนายพลรอส (General Ross) จากการถูกจับไปศึกษา และได้ถือกำเนิดคู่ปรับสุดร้ายกาจของฮัลค์ขึ้น นั่นก็คือ Abomination เรื่องราวนักวิทยาศาสตร์ บรูซ แบนเนอร์ (เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน) พยายามหาวิธีรักษารังสีแกมมาที่ทำให้เซลล์ของเขาปนเปื้อนและเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นเดอะฮัลค์ ตัดขาดจากความรักที่แท้จริงของเขา เบ็ตตี รอส (ลิฟ ไทเลอร์) และถูกบังคับให้ซ่อนตัวจากศัตรูตัวฉกาจของเขา พล.อ.ธันเดอร์โบลต์ รอส (วิลเลียม เฮิร์ต) แบนเนอร์ก็เผชิญหน้ากันพร้อมกับภัยคุกคามใหม่: ศัตรูที่ทรงพลังอย่าง The Abomination (ทิม ร็อธ) Post-Credit Scenes: โรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์ กลับมาปรากฏตัวเป็น โทนี่ สตาร์ค อีกครั้ง! พร้อมกับเจรจาชักชวนนายพลรอสให้ร่วมมือทำบางอย่างร่วมกัน ซึ่งทั้งคู่ต่างไม่ยอมอ่อนข้อให้ แม้นายพลรอสจะอยู่ในช่วงที่เมาแอ๋ที่สุดก็ตาม และยังมีช็อตสั้นๆของกัปตันอเมริกาที่ถูกแช่แข็งอยู่ภายใต้น้ำแข็งยักษ์ในฉากที่บรูซ แบนเนอร์กำลังเปลี่ยนเป็นฮัลค์ด้วย ใน

Thor The Dark World (2013)  หนัง Marvel ภาคต่อของเทพเจ้าสายฟ้า ที่กลับมาพร้อมกับ โลกิ น้องชายสุดอันตรายที่เคยสร้างความวุ่นวายเอาไว้ใน New York และเคยเป็นตัวร้ายในเรื่อง The Avengers (2012) มาก่อน ซึ่งทั้งคู่ต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องอาณาจักรทั้ง 9 จากกองทัพ Dark Elf เรื่องราวการผจญภัยของ ธอร์ (คริส เฮมส์เวิร์ธ) ผู้ที่ต่อสู้ร่วมกันกับ เหล่าอเวนเจอร์ส เพื่อปกป้องโลกและดินแดนทั้ง 9 จากศัตรูลึกลับที่หมายจะครอบครองจักรวาล หลังจากที่พวกเขานำความสงบกลับมาสู่จักรวาล แต่ชนเผ่าโบราณที่นำโดย มาเลคิธ (คริสโตเฟอร์ เอคเคลสตัน) ผู้เคียดแค้น ได้กลับมาเพื่อทำให้จักรวาลกลับเข้าสู่ความมืดมิดอีกครั้ง การเผชิญหน้ากับศัตรูที่แม้แต่ โอดิน (แอนโทนี่ ฮ็อปกินส์) และ แอสการ์ด ไม่สามารถรับมือได้ ธอร์ ต้องมุ่งหน้าสู่การเดินทางที่เต็มไปด้วยอันตรายและเป็นส่วนตัว เมื่อการเดินทางครั้งนี้ได้นำเขากลับมาพบกับ เจน ฟอสเตอร์ (นาตาลี พอร์ตแมน) และบังคับให้เขาต้องเสียสละทุกสิ่งอย่างเพื่อปกป้องพวกเราทั้งหมด โดยสรุปในด้านของเนื้อเรื่องนั้น ก็จัดได้ว่าภาคนี้เน้นหนักไปที่การสงครามมากขึ้น ทำให้เรื่องราวดูตื่นเต้นและเข้มข้นมากขึ้น

We Can Be Heroes   ทีมฮีโร่อิกส์ คือกลุ่มยอดมนุษย์ที่มีหน้าที่ในการปกป้องโลกใบนี้จากการถูกภัยคุกคาม จนกระทั่งการโจมตีครั้งล่าสุดของเหล่าเอเลี่ยนนอกโลก เหล่าฮีโร่อิกส์พ่ายแพ้และถูกจับไปเป็นตัวประกันบนยานอวกาศนอกโลก บรรดาลูกๆของเหล่าซูเปอร์ฮีโร่จึงต้องหาทางช่วยเหลือพ่อแม่ของพวกเขาให้ได้ เรื่องราว ในโลกปัจจุบันมีกลุ่มฮีโร่ที่แกร่งที่สุดมีชื่อว่า ฮีโร่อิกส์ พวกเขาได้พบสัญญาณของเหล่าเอเลี่ยน จึงต้องทำให้เหล่าฮีฌร่ต้องออกปฏิบัติการไปหยุดยั้งเหล่าเอเลี่ยน แต่พวกเขากลับโดนจับตัวไว้ได้ ซึ่งในนั้นมี มาร์คัส พ่อของ มิซซี่ สาวน้อยซึ่งไร้พลังวิเศษ ได้มาอยู่กับเหล่าลูกของซุปเปอร์ฮีโร่ในฐานลับของฮีโร่อิกส์ พวกเด็ก ๆ จึงต้องหาวิธีทางที่จะช่วยเหลือพ่อแม่ของตนจากเอเลี่ยนให้ได้ แม้เนื้อเรื่องที่อาจจะดูไม่มีอะไร แต่หนังเด็กของผู้กำกับโรเบิร์ต รอดดิเกซ มักจะพูดถึงประเด็นสายสัมพันธ์ของครอบครัว เราจะได้เห็นตัวละคร พ่อ แม่ ลูก รวมไปถึงญาติพี่น้อง ปรากฏตัวอยู่ในเรื่องราวอย่างน่าอัศจรรย์ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเรื่องราวทุกอย่างคลี่คลายลง หนังของเขามักจะทำให้คนดูได้เห็นอยู่เสมอว่า สถาบันครอบครัวนั้นมีผลอย่างไรต่อบรร

Spider-Man: No Way Home (2021) เมื่อเปิดเผยตัวตนของสไปเดอร์-แมน เว็บสลิงเกอร์เพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของเราก็ถูกเปิดโปงและไม่สามารถแยกชีวิตปกติของเขาในฐานะปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ออกจากเดิมพันสูงของการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้อีกต่อไป เมื่อปีเตอร์ขอความช่วยเหลือจากด็อกเตอร์สเตรนจ์ เดิมพันก็ยิ่งอันตราย ทำให้เขาต้องค้นพบความหมายที่แท้จริงของการเป็นสไปเดอร์แมน เรื่องราวต่อเนื่องจากเหตุการณ์ในภาคก่อน ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ และคนรอบๆ ตัวเขาได้ตกที่นั่งลำบาก เนื่องจาก มิสเทอริโอ ได้ทิ้งบอมบ์ชุดใหญ่เอาไว้ ด้วยการเปิดเผยตัวตนที่แท้ของเขาว่าเป็นใคร ทำให้เขาต้องโร่ไปหา ด็อกเตอร์ สเตรนจ์ เพื่อช่วยแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้น โดยหวังว่าจะบลบความทรงจำคนทั้งโลก เพื่อให้ลืมว่าใครคือไอ้แมงมุมแต่สิ่งไม่คาดคิดได้เกิดขึ้นระหว่างการร่ายมนตร์คาถา เพราะเขาทำให้หมอเสียสมาธิ กลับกลายเป็นว่าผลลัพธ์ที่ออกมานั้นเป็นหายนะกว่าเดิม เพราะเป็นการกำเนิดมัลติเวิร์ส หรือ พหุจักรวาล โลกคู่ขนานต่างๆ ที่ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์และวายร้ายเก่าๆ ที่เคยต่อกรด้วยกันมา และทำให้ทุกอย่างแย่ลงและอันตรายเกินกว่าที่จะรับมือได้ด้วยตัวเอง โดยภาพรวมเป็น