รีวิว Watchmen หนังฮีโร่เสียดสีสังคม ตีแผ่ฮีโร่ในอีกแง่มุมหนึ่ง

Watchmen เรื่องราวให้เกิดขึ้นในอเมริกาปี 1985 ที่ซึ่งบรรดาซูเปอร์ฮีโร่ที่มีชุดประจำตัวทั้งหลาย ถือเป็นส่วนหนึ่งของสังคมประจำวัน และนาฬิกาพิพากษาโลก ซึ่งเติมเชื้อไฟให้กับความตึงเตรียดของอเมริกากับสหภาพโซเวียต ยิ่งเดินหน้าเข้าใกล้เวลาเที่ยงคืนมากขึ้นทุกขณะ

เรื่องราวเมื่อหนึ่งในเพื่อนร่วมงานเก่าของเขาถูกฆ่าตาย รอร์แชค (แจ็คกี้ เอิร์ล เฮลีย์) ฮีโร่สวมหน้ากากผู้ผดุงความยุติธรรมแต่บัดนี้ได้กลายเป็นพวกนอกกฎหมายไปแล้ว ต้องการเปิดโปงแผนการร้ายที่มีเป้าหมายเพื่อสังหารและสร้างความเสื่อมเสียให้กับบรรดาซูเปอร์ฮีโร่ทั้งในอดีตและปัจจุบันทุกนาย เมื่อเขากลับไปติดต่อกับกลุ่มอดีตนักต่อสู้อาชญากรรม ซึ่งเป็นกลุ่มซูเปอร์ฮีโร่ที่เกษียณตัวเองและแยกย้ายกระจัดกระจายกันไป และเป็นคนกลุ่มเดียวที่มีพลังวิเศษที่แท้จริง รอร์แชคได้พบแผนสมรู้ร่วมคิดที่เชื่อมโยงถึงอดีตที่พวกเขาทุกคนเคยมีร่วมกัน และผลพวงอันเป็นหายนะที่จะส่งผลต่ออนาคต ภารกิจของพวกเขาคือการดูแลคุ้มครองมนุษยชาติ แต่ใครกันล่ะที่จะคอยระวังภัยให้กลุ่มวอทช์เมน

โดยสรุปหนังฉีกกรอบฮีโร่ผู้ผดุงความยุติธรรมแบบขาวสะอาด และตีแผ่อีกด้านหนึ่งของฮีโร่ที่ผู้คนอาจไม่เคยได้รับรู้มาก่อน เป็นหนังฮีโร่สีเทา ๆ ที่ชูประเด็นน่าสนใจชวนให้คนดูได้ร่วมขบคิดไปด้วยกัน หนังจะเล่าถึงกลุ่มผู้ดูแลความสงบที่ชื่อ Watchmen ซึ่งเป็นกลุ่มฮีโร่ที่ตั้งตัวเองขึ้นมาเป็นศาลเตี้ยคอยปราบปรามเหล่าผู้ร้าย และเลือกแก้ปัญหาด้วยความรุนแรงโดยไม่ได้สนใจความปลอดภัยของประชาชนเท่าไรนัก ด้วยเหตุนี้ จึงมีการตั้งคำถามถึงผู้ที่จะมาควบคุมฮีโร่กลุ่มนี้อีกทีหนึ่ง หนังไม่ได้มีฉากแอ็กชันเยอะเหมือนเรื่องอื่น แต่จะเน้นการตีแผ่และเสียดสีสังคมอเมริกา ถ้าหากคุณอยากลองดูหนังฮีโร่ที่มีประเด็นลึกซึ้งต้องดูหนังเรื่องนี้เลยค่ะ

👉👉  นอกจากนี้ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังแอคชั่นไซไฟ ได้ที่นี่