รีวิว Ghost Rider: Spirit of Vengeance (2011) โกสต์ ไรเดอร์ อเวจีพิฆาต
Ghost Rider: Spirit of Vengeance (2011) ในภาคนี้นั้นได้เปลี่ยนตัวผู้กำกับมาเป็นคู่หูสุดคลั่งแห่งวงการฮอลลีวู้ดอย่าง มาร์ค เนเวลไดน์ และ ไบรอัน เทย์เลอร์ ที่พวกเราคงรู้จักพวกเขากันดี เพราะเขานั้นเองที่เป็นผู้กำกับคู่หูที่เคยทำเอาคนดูคลั่งจนตกเก้าอี้กันมาแล้วกับ Crank ทั้ง 2 ภาค และรวมไปถึงหนังคนเล่นเกมส์สุดเถื่อนอย่าง Gamer อีกด้วย ซึ่งในภาคนี้ที่พวกเขามาควบคุมการกำกับนั้นก็ได้ให้คำสัญญากับคนดูตั้งแต่ตัวอย่างว่ามันจะเถื่อนกว่า แรงกว่า และ เกรดบีกว่าภาคแรก และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ เพราะสิ่งเดียวที่ช่วยให้ Ghost Rider ภาคนี้พอดูได้จนจบนั้นคือสไตล์งานกำกับของคู่หูสุดเถื่อน ที่ยังพอมีลายเซ็นความคลั่ง ความบ้า ออกมาให้ผู้ชมได้ชมกันอยู่แทบตลอดทั้งเรื่อง พร้อมไปกับการที่เป็นความชอบส่วนตัวของผมต่อนักแสดง นิโคลัส เคจ
เรื่องราวของฮีโร่สุดดาร์คอย่าง โกสต์ ไรเดอร์ ในภาคนี้เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากภาคแรก ที่ จอห์นนี่ เบลซ นั้นต่อสู้กับคำสาปของตัวเอง และ ยับยั้งตัวเองเพื่อไม่ให้กลายร่างเป็น ไอ้กระโหลกผี โกสต์ ไรเดอร์ แต่แล้วก็ดันมีเรื่องยุ่งๆมาทำให้ต้องกลับไปขยี้คนชั่ว เมื่อมี เด็กชาย ปริศนา นั้นได้ถูกลัทธิอะไรบางอย่างจับตัวไป เพราะคำทำนายที่ว่าเด็กชายคนนี้มีพลังซาตานที่จะทำลายโลกให้ย่อยสลายไปได้ จึงเดือดร้อนมาถึง จอห์นนี่ เบลซ ที่ต้องออกซิ่งรถเพื่อไปช่วยเด็กชายอีกครั้ง เพื่อแลกกับการที่หัวหน้านักบวชผู้ว่าจ้างนั้นจะถอนคำสาปการเป็น ไรเดอร์ ให้กับเขาได้
สรุป Ghost Rider : Spirit Of Vengence ถือว่าเป็นหนังฮีโร่ แอ็คชั่น ภาคต่อที่ทำออกมาได้ดีในด้านของ สไตล์งานเถื่อนๆ ของผู้กำกับ และ ฉากแอ็คชั่นที่พอดูได้ แต่นอกเหนือจากนั้นมีแต่ความน่าผิดหวัง ไล่ตั้งแต่ด้าน บท ประเด็น และ ความสนุกที่ไม่สามารถเทียบภาคแรกได้เลยแม้แต่นิดเดียวหละค่ะ
👉👉 ติดตามรีวิวเพิ่มเติมได้ที่นี่ รีวิวหนังแอคชั่นไซไฟ
Comments
Post a Comment